บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วังเวียง กุ้ยหลินเมืองลาว


วังเวียง

วังเวียง
 
วังเวียง

วังเวียง
 
วังเวียง กุ้ยหลินเมืองลาว (Weekend)

เรื่องโดย : Tongta

          โหดไปมั้ยถ้าจะขับรถไปถึงลาว
          โอ๊ย...ไม่ฌหดหรอก ขนาดพี่ป๋อ (ในโฆษณารถ...) เขายังบอกเลยว่าเรื่องจิ๊บ ๆ
          ลองกันมั้ย อยากรู้ว่าจะเป็นไงบ้าง

          ว่า แล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางไปลาวด้วยขาสองข้างของเราเอง สองสาวบุกบั่นค้นหาข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยวครั้งนี้ ลาว –ไทย ใกล้กันนิดเดียว แต่ต้องใช้เวลามากโขกว่าจะสัมผัสถึงแก่นแท้ โดยออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ตรวจสภาพรถให้พร้อมแล้วออกมุ่งหน้าสู่ "หนองคาย" ใช้เวลาเบ็ดเสร็จประมาณ 10 ชั่วโมง (รวมการหม่ำข้าวริมทาง) คืนแรกพักที่หนองคายก่อนแล้วกัน

วังเวียง

วังเวียง


          มีคนแนะนำว่าให้ใช้บริการ "รับกรอกเอกสาร+ทำบัตรผ่านแดน"เพื่อ ความสะดวกและรวดเร็ว เราสองคนมุ่งหน้าไปที่ร้านนั้นทันทีในรุ่งเช้า เสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 150 บาท เขาคิคค่ากรอกใบละ 50 บาท (คน 2 บวกกับรถอีก 1 รวมเป็น 3) จากนั้นก็ไปตั้งแถวรอเข้าเมืองลาวที่หน้าด่านหนองคาย-ท่านาแล้ง เพื่อรอข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว คิวยาวสุด ๆ และใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ถึงจะผ่านไปได้

          สิบโมงเช้ากับบรรยากาศอุ่น ๆ จักรยานคู่ใจถูกกางออกพร้อมร่อนรอบเมือง ลมที่นี่เย็นสบายและไม่มีสารพิษเจือปน "ถ้ำจัง"คือ สถานที่แรกของวัน ภายในเป็นโถงใหญ่ มีไฟปะดับ อากาศด้านในเย็นฉ่ำ และมีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลก ๆ ให้ดู จากนั้นเราก็หาของรองท้องริมทาง เป็นส้มตำจานเด็ดที่รสชาติไม่เจ็บเหมือนบ้านเรา

หอพระแก้ว

หอพระแก้ว

ประตูชัย

ประตูชัย

พระธาตุหลวง

พระธาตุหลวง

          นอกจาก "ถ้ำจัง" แล้ว ที่นี่ยังมีอะไรให้ดูอีกเยอะ .... การสักการะ "พระธาตุหลวง" ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว "ประตูชัย" อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงคราม ก่อนหน้าการปฎิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ "หอพระแก้ว" พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ แต่เดิม "หอพระแก้ว" เป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว...

วังเวียง

วังเวียง
วังเวียง

วังเวียง

          การเดินชมตลาดเช้ามักมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจเสมอ หมอกบาง ๆ พาดผ่านทุกอณูบนทางเดิน เย็นชื้นและชุ่มฉ่ำ บอกตามตรงเลยว่าฉันติดใจอากาศของที่นี่มาก ๆ ยิ่งได้มีเวลาอยู่เท่าไหร่ก็ยิ่งหลงรัก และกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างคือ "ล่องเรือ" ลำน้ำซองเป็น เรือแคนูขนาดย่อม ๆ สามารถพายเล่นไปมาได้ทั้งวันถ้าไม่เหนื่อย คืนที่สองพวกเราเลือกย้ายที่นอน เพื่อลองบรรยากาศใหม่ ๆ และเปรียบเทียบความงามของบ้านพัก

          สรุป การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงหนองคาย ต่อด้วย วังเวียง รวมทั้งสิ้น 4 วัน 3 คืน เงินในกระเป๋าไม่แฟบเท่าไหร่ ที่หมดไปเยอะเห็นจะเป็นค่าน้ำมัน ประมาณ 5,500 – 6,000 บาท ค่าเอกสารสำหรับออกนอกเมืองทั้งคนทั้งรถไม่เกิน 1,500 บาท ค่าที่พัก 3 คืน 4,500 บาท ค่าเช่าเรือ, ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว อยู่ที่ 2,000 บาท ส่วนที่เหลือคือค่ากิน ค่าของใช้ที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ รวมไปถึงของที่ระลึกสำหรับ 2 คน ฉันว่า 20,000 บาท อยู่หมัด ราคานี้เผื่อผู้ที่อยากไปเยือน หลวงพระบาง ด้วยนะคะ

          สุขใจเต็มอิ่มกับบรรยากาศเนิบ ๆ ใน วังเวียง

วังเวียง

วังเวียง

เอกสารที่จำเป็นต้องใช้

          1. พาสปอร์ต (คน) ก่อนหมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน (สำเนาบัตรประชาชน 2 ชุด)

          2. พาสปอร์ต (รถ) เล่มสีม่วง ทำพาสปอร์ตรถที่สถานีขนส่ง บอกเจ้าหน้าที่ว่าจะนำรถไปเที่ยวต่างประเทศ (ค่าใช้จ่ายประมาณไม่เกิน 200 บาท)

          3. ทะเบียนรถตัวจริง กรณีรถติดไฟแนนซ์ต้องไปติดต่อกับบริษัทฯ ขอนำรถออกนอกราชอาณาจักร (ถ้าเขามีหนังสือรับรองให้เรา สามารถนำรถออกไปได้ ถ้าบริษัทฯ ไม่รับรองก็ไม่ได้) เตรียมสำเนาสมุดเสียภาษี 2 ชุด

สุนัขแสนรู้ รอเจ้าของกว่า8เดือนไม่ไปไหน

สุนัขแสนรู้ รอเจ้าของกว่า8เดือนไม่ไปไหน

สุนัขแสนรู้ รอเจ้าของกว่า8เดือนไม่ไปไหน
สุนัขแสนรู้ รอเจ้าของกว่า8เดือนไม่ไปไหน
พบสุนัขแสนรู้พันธุ์ผสมอัลเซเซียน เพศผู้ อาศัยศาลาข้างทางนานร่วม 8 เดือน คาดรอเจ้านายกลับมารับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (25 พ.ค.) พบสุนัขหลงทางกับเจ้าของ ไม่ยอมไปไหนพักอาศัยอยู่ในศาลาผู้โดยสาร ริมถนนสายกระบี่-ขนอม ฝั่งมุ่งหน้า อ.กาญจนดิษฐ์ ตัดกับถนนสายสุราษฎร์-นาสาร หมู่ 3 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มานานหลายเดือน จึงประสานมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฏร์ธานีไปตรวจสอบ ภายในศาลาข้างทางพบสุนัขพันธุ์ผสมอัลเซเซียน เพศผู้ อายุประมาณ 1-2 ปี สภาพผอมโซ พอมันเห็นกลุ่มคนมามุงดู เลยตื่นตกใจวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่ง เจ้าหน้าที่พยายามเรียกให้มันเข้ามาเพื่อนำไปเลี้ยง แต่มันแสนรู้ไม่ยอมเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่เลยไปซื้อเป็ดพะโล้มาวางล่อ มันจึงยอมเดินเข้าไปกิน แต่ยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ จากนั้นจึงก้มกินเป็ดพะโล้จนหมด หลังจากเจ้าหน้าที่พยายามหาทางจะจับมันอยู่นานเกือบชั่วโมง มันก็ยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ สุดท้ายเลยต้องแยกย้ายกันกลับ
นายสมพงษ์ ปานทอง พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ตนเห็นเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวอาศัยอยู่ในศาลาข้างทาง ด้วยความสงสารหลังเลิกงาน เลยนำไข่เป็ดกับไข่ไก่มาให้มันกิน ทราบมาจาก 2 สามีภรรยาคู่หนึ่งที่มักนำอาหารมาให้มันกินเช่นกันว่า เจอเจ้าสุนัขหลงทางตัวนี้เมื่อ 8 เดือนก่อน สงสัยจะหลงกับเจ้าของ และมันไม่รู้จะไปไหนเลยอาศัยศาลาข้างทางเป็นที่หลับนอน เผื่อเจ้าของอาจตามมาเจอ ซึ่งตนเคยจะจับมันไปเลี้ยงแต่มันไม่ยอมให้จับ

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ชมธรรมชาติเขียวขจีที่ ทุ่งแสลงหลวง


ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ชมธรรมชาติเขียวขจีที่ ทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก (คู่หูเดินทาง)

          แม้หน้าฝนปีนี้จะมาช้ากว่าทุกปี แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทุ่งป่าเขียวขจีแห่งทุ่งแสลงหลวงลดน้อยความสวยงามไป คู่หูพาเที่ยวฉบับนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปที่ "อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง" พาขึ้นไปดูต้นสนสองใบและธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ ณ ทุ่งนางพญา
  
          การเดินทางครั้งนี้มีความตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอดเวลา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เราทีมงานคู่หูเดินทางมาเที่ยวยังที่แห่งนี่ ที่สำคัญอากาศค่อนข้างครึมมีฝนตกตลอดเส้นทาง แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสทุกอย่างมีสองด้านเสมอ เพราะการที่ฝนตกทำให้ตลอดเส้นทางการเดินทาง เราจะได้เห็นหมอกลอยนวลขาวอยู่บนยอดเขาใกล้ไกลตลอดทาง โรแมนติกมาก ๆ ประทับใจสุด ๆ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าจริง ๆ แล้วหน้าฝนก็มีความงดงามของธรรมชาติซุกซ่อนตัวอยู่เช่นกัน

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

          อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ ท้องที่อำเภอวังทอง อำเภอนครไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอเขาค้อ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีสภาพธรรมชาติ ทิวทัศน์ และลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแหล่ง เช่น ถ้ำ น้ำตก ทุ่งหญ้าโล่งใหญ่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด มีเนื้อที่ประมาณ 789,000 ไร่ หรือ 1,262.40 ตารางกิโลเมตร

          สำหรับชื่อของ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง นี้ เป็นชื่อของทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ทางด้านทิศใต้ของอุทยานฯ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ว่าการอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงประมาณ 60 กิโลเมตร สันนิษฐาน ว่าชื่อทุ่งแสลงมาจากชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งในทุ่งหญ้าแห่งนี้ คือ ต้นแสลงใจ เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลสุกสีแสด คาดว่าในสมัยก่อนมีต้นแสลงใจขนาดใหญ่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับสภาพภูมิประเทศเป็นเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ มีป่าหลายชนิด และสัตว์ป่าชุกชุม จึงตั้งชื่อว่า "ทุ่งแสลงหลวง" ให้สมกับเป็นพื้นที่ที่รวบรวมความหลากหลายของธรรมชาติไว้

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง


          ภูมิประเทศมีลักษณะเป็นภูเขาคล้ายหลังเต่า เป็นเทือกเขาหินปูนทอดเป็นแนวยาว มีจุดสูงสุดคือ บริเวณเขาแค เป็นต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยเข็กใหญ่ ห้วยเข็กน้อย ลำน้ำทุ้ม คลองชมภู และคลองวังทอง เป็นต้น ฤดูฝนอยู่ในระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม และฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นมากเหมาะแก่การไปท่องเที่ยว พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้สนสองใบ มะม่วงป่า ประดู่ และทุ่งหญ้าที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างใหญ่มีสนและไม้ดอกขึ้นสลับกันอยู่

          สามารถมากางเต็นท์ได้ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ทุ่งนางพญา และ ทุ่งโนนสน แต่ 2 ที่หลังนี้ไม่มีบริการไฟฟ้าและห้องน้ำอยู่กันแบบธรรมชาติล้วน ๆ ซึ่งการเดินทางไปแต่ละจุดนั้นต้องใช้รถที่มีประสิทธิภาพสักหน่อย ยิ่งเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อยิ่งดี เพราะในช่วงหน้าฝนถนนค่อนข้างลื่นชัน กิจกรรมที่นิยมมากคือการขี่จักรยานเที่ยวชมธรรมชาติรอบ ๆ อุทยานฯ


ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

          สำหรับ ทุ่งนางพญา นั้น จะอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 14 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมง จากนั้นถ้าต้องการไปยัง ทุ่งโนนสน ต่อก็ต้องเดินทางเข้าไปอีก 18 กิโลเมตร ระหว่างทางเราจะได้พบ ต้นดอกกระเจียวขาว เอื้องชะนี เอื้องคำปากไก่ เฟิร์นชนิดต่าง ๆ เป็นต้น เมื่อเราได้มายืนอยู่ท่ามกลางป่าทุ่งสนสองใบ เราจะได้ยินเสียงลม วีด วิ้ว อยู่ตลอดเวลา ขอบอกว่ามันเป็นเสียงที่บรรเลงโดยธรรมชาติล้วน ๆ

          การ เดินทางครั้งนี้ ความโรแมนติกของบรรยากาศและสถานที่ พร้อมทั้งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติทำให้ทุ่งแสลงหลวงในหน้าฝน เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจมาก และในโอกาสต่อไปเราจะกลับมาเยือน ทุ่งแสลงหลวง นี้อีกครั้งในช่วงฤดูหนาว เพราะครั้งหน้าเราจะพาคุณมาชม ทุ่งแสลงหลวงในแบบฉบับพื้นป่าทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย พร้อมดอกไม้นานาพันธุ์


น้ำตกแก่งซอง

น้ำตกแก่งซอง

วัดราชคีรีหิรัญยาราม

วัดราชคีรีหิรัญยาราม

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

          น้ำตกแก่งซอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานทุ่งแสลงหลวง ด้านจังหวัดพิษณุโลก ทางหลวงหมายเลข 12 กม. 45 เกิดจากลำน้ำเข็กลดระดับทำให้ธารน้ำมีลักษณะเป็นน้ำตกมีขนาดใหญ่ ในช่วงฤดูฝนน้ำจะมีลักษณะสีน้ำตาลขุ่น แต่ในช่วงฤดูหนาวและร้อนเมื่อน้ำลดระดับลงน้ำจะมีสีขาวใส สามารถพายเรือคายัคเล่นได้

           วัดราชคีรีหิรัญยาราม (เขาสมอแคลง) มาสักการะเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สูงถึง 3.5 เมตร สร้างมาจากหินหยกขาวชิ้นเดียว ได้รับการปลุกเสกจากวัดหยินธงเป่าเตี้ยน ประเทศจีน บริเวณโดยรอบวัดยังจัดสร้างองค์พระพุทธรูปสำคัญปรางค์ต่าง ๆ ประดิษฐาน เพื่อให้เป็นที่กราบไหว้สักการะของพุทธสากนิกชนชาวพุทธโดยทั่วไป

           เจดีย์ยอดด้วน (เขาสมอแคลง) มี อายุราว 700 ปี พงศาวดารเหนือบันทึกไว้ว่า พระยาจิตรไวย แห่งเจ้าเมืองน่านสร้างเจดีย์องค์นี้เพื่อบรรจุพระธาตุของพระอรหันต์เถระ เจ้า คือ พระอุบาลีเถระและพระศิริมานนท์เถระ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ 2 รูปที่ได้รับนิมนต์เป็นประธานฝ่ายสงฆ์สร้างพระพุทธชินราช ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร มีการซ่อมแซมและบูรณะมาหลายครั้งแล้ว ลักษณะเจดีย์เป็นทรงลังกา มีฐานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 3 ชั้น หลังจากนั้นจะเป็นฐานย่อแปดเหลี่ยมแล้วขึ้นเป็นองค์ระฆัง ลักษณะเด่นของที่นี่คือบริเวณยอดเจดีย์องค์ระฆังจะมีเพียงแค่ครึ่งซีกเท่า นั้น

           พระมหาธาตุเจดีย์ศรีบวรชินรัตน์ (เขาสมอแคลง) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 9 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและบูชาความดีของบูรพมหากษัตริย์นักรบไทย ส่วนยอดที่เป็นดอกบัวของพระมหาธาตุเจดีย์นั้นได้บรรจุพระบรมธาตุ คือ พระนลาต (กระดูกส่วนหน้าผาก) และพระบรมสารีริกธาตุส่วนต่าง ๆ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

           โรงเจไซทีฮุกตึ๊ง ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย (เขาสมอแคลง) มีความวิจิตรสวยงามมาก มีจุดที่ให้ได้กราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง อาทิ เข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ สักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เดินชมสวนสวรรค์แห่งเทพเจ้า พร้อมชมจุดชมวิวดอยสุเทพ 2 มอง ซึ่งสามารถมองเห็นทุ่งนา บ้านเรือนและบริเวณโดยรอบของอำเภอวังทอง

ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง

Tips ข้อมูลการเดินทาง

          การเดินทางไปทุ่งแสลงหลวง

          โดยรถยนต์ส่วนตัวสามารถใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง คือ ...

          • เส้นทางแรก จากจังหวัดเพชรบูรณ์ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21 ไปทางอำเภอหล่มสัก ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ถึงบ้านนางั่วแล้วเลี้ยวซ้าย ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2258 ขึ้นเขาค้อผ่านสี่แยกบ้านสะเดาะพงผ่านพระตำหนักเขาค้อ ตรงไปจนถึงบ้านทางตะวันเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะถึงหน่วยจัดการอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวงที่ 1 (หนองแม่นา)

          • เส้นที่สอง จากจังหวัดพิษณุโลกใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 12 เส้นพิษณุโลก-หล่มสัก ประมาณ 100 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่เขาค้อผ่านหน้าอำเภอเขาค้อ ถึงสี่แยกบ้านสะเดาะพงแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2258 ผ่านพระตำหนักเขาค้อตรงไปบ้านทางตะวัน เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะถึงหน่วยจัดการอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวงที่ 1 (หนองแม่นา)

          โดยรถโดยสารประจำทาง

          ทาง บขส. มีบริการมายบัส คือรถด่วนพิเศษไม่จอดระหว่างทาง วิ่งตรงจากกรุงเทพฯ - พิษณุโลก จากนั้นก็โดยสารรถประจำทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก ลงรถที่บ้านแค้มป์สน กิโลเมตรที่ 100 แล้วว่าจ้างเหมารถสองแถวที่ปากทางแค้มป์สนไปยังหน่วยฯ หนองแม่นา สามารถสอบถามตารางเดินรถ บขส. ได้ที่ Call Center 1490

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ี่

          อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ตู้ ปณ. 64 อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65120 โทร. 0-5526-8019