บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

          "ล่องแก่ง" นับเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่ท้าทายความสามารถของผู้รักการผจญภัยทางน้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนนับเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการล่องแก่งเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้ำมีปริมาณมาก และยิ่งมีกระแสน้ำไหลแรงมากเท่าใดจะสร้างความตื่นเต้น สนุกสนาน และความท้าทายให้แก่ผู้เล่นเป็นอย่างมาก ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ขอแนะนำสำหรับผู้รักการผจญภัยทางน้ำ หรือการล่องแก่งไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งก็คือ "ล่องแก่งลำน้ำเข็ก" อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งจัดเป็นสนามล่องแก่งที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากลำน้ำเข็กแห่งนี้จะมีกระแสน้ำไหลผ่านเกาะแก่งมากมายตามระดับความ ยากง่ายตลอดเส้นทางสลับกันท้าทายความสามารถของนักล่องแก่งมืออาชีพเป็นอย่าง ยิ่ง

          โดยในปีนี้ทางจังหวัดพิษณุโลก ได้จัดงาน "เทศกาลชิมกาแฟแก่งซอง ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ประจำปี 2552" ณ บริเวณลำน้ำเข็ก บ้านท่าข้าม หมู่ 2 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงระหว่าง เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม เพื่อประชาสัมพันธ์เทศกาลชิมกาแฟแก่งซอง ล่องแก่งลำน้ำเข็ก และเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศด้วย
  
          ทั้งนี้ ลำน้ำเข็กมีแหล่งกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในเขตอำเภอเขาค้อไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มาเป็นน้ำตกศรีดิษฐ์ และน้ำตกแก่งโสภา อันสวยงามและมีชื่อเสียงของจังหวัดพิษณุโลก โดยลำน้ำเข็กจะไหลเคียงคู่กับเส้นทางหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก จะมีเกาะแก่งมากมาย ในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม เป็นช่วงฤดูฝนลำน้ำเข็กจะมีปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับการล่องแก่งที่มีระดับ ความยากง่ายต่างกันไป

          สำหรับ การล่องแก่งลำน้ำเข็กจะมีระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องประมาณ 3 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางท่านจะได้สัมผัสถึงความสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลาที่อยู่บนเรือยาง พร้อมทั้งยังจะได้ชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำที่ถูกปกคลุมไปด้วยไม้ใหญ่ที่ร่ม รื่น และผ่านเกาะแก่งมากมายที่มีความรุนแรงแตกต่างกันไปตั้งแต่ระดับ 1-5 ตลอดเส้นทางสลับกันรวมทั้งหมด 18 แก่ง และในปีนี้มีผู้ประกอบการล่องแก่งนำแพยางมาให้บริการในการล่องแก่งกว่า 20 ลำ
  



          จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งลำน้ำเข็กคือ "แก่งท่าข้าม" เป็นแก่งน้ำขนาดเล็ก พอให้นักล่องแก่งได้ฝึกหัดบังคับเรือยางสร้างความคุ้นเคยกับการล่องแก่งลำน้ำเข็ก จากนั้นจะล่องต่อไปที่ "แก่งไทร" เป็นแก่งที่มีระดับความยากอยู่ที่ระดับ 2-3 เป็นแก่งที่มีความคดเคี้ยว มีต้นไม้ปกคลุมหนาแน่นจนนักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสแล้วต่างก็ตั้งฉายาให้ กับแก่งนี้อีกชื่อคือ "แก่งมรดกป่า" ในการบังคับเรือยางให้ผ่านแก่งนี้ไปได้จะต้องใช้ทักษะในการบังคับเรือยางพอ สมควรกระแสน้ำจะไหลแยกออกเป็นสองทาง ก่อนล่องไปที่ "แก่งปากยาง" มีความยาวประมาณ 100 เมตร ความยากของแก่งนี้อยู่ที่ระดับ 2-3 แล้วแต่ความรุนแรงของกระแสน้ำ แก่งปากยางนี้จะมีน้ำตกเล็กๆ ที่ลดระดับของชั้นหินขวางอยู่ทั้งลำน้ำ เมื่อผ่านแก่งนี้ไปก็จะเข้าสู่ "แก่งหินลาด" แก่งนี้นักท่องเที่ยวจะสนุกกันอย่างสุดเหวี่ยง เนื่องจากเป็นแก่งที่นักท่องเที่ยวจะต้องยึดตัวให้อยู่บนเรือ ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกกระแสน้ำซัดตกเรือ หรือกระเด็นไปอยู่หัวเรือ-ท้ายเรือได้ เพราะแก่งนี้มีกระแสน้ำที่ค่อนข้างรุนแรง
  
          จากนั้นล่องต่อไปยัง "แก่งสวนรัชมังคลา" ซึ่งแก่งนี้จะเป็นแก่งที่สนุกสนานอีกแก่ง เพราะนักท่องเที่ยวต้องบังคับเรือยางผ่านโขดหินเล็กที่เรียงรายกันอยู่กลาง น้ำ แก่งนี้ถ้าเป็นช่วงที่มีน้ำขึ้นจะมีคลื่นสูงถึง 1 เมตร ผ่านจุดนี้ไปก็เข้าสู่ "แก่งซาง" เป็นอีกแก่งหนึ่งที่เป็นลักษณะของลานหินกว้าง ลดหลั่นกันลงไปตามระดับแต่ละช่วง แก่งนี้จึงมีความยากอยู่ในระดับ 4-5 เลยทีเดียว และมาที่ "แก่งโสภาราม" เป็นแก่งคดเคี้ยวเลี้ยวไปมาคล้ายตัวเอส ความรุนแรงของกระแสน้ำไม่มากนัก แต่นักล่องแก่งจะต้องใช้ทักษะในการพายเรือยางค่อนข้างสูง ก่อนเข้าสู่ "แก่งนางคอย" ซึ่งอยู่ห่างจากแก่งซางระยะทางไม่ไกลกันเท่าใดนัก ลักษณะของแก่งจะค่อยๆ ลดระดับกันลงมาเป็นชั้นๆ ในบางครั้งกระแสน้ำที่ไหลกระทบกับชั้นหิน ของแก่งนางคอยจะมีความสูงเกือบสองเมตรเลยทีเดียว ดังนั้น ในการล่องเรือยางผ่านแก่งนางคอยนั้นนักล่องแก่งจะต้องใช้ทักษะในการพายสูง มิฉะนั้นโขดหินและเกาะแก่งต่างๆ ที่จมอยู่ใต้น้ำอาจจะทำให้เรือยางพลิกคว่ำลงได้ง่ายๆ

          ต่อด้วย "แก่งยาว" แก่งนี้จะมีความยาวถึง 100 เมตร สมกับชื่อของแก่ง โดยกระแสน้ำจะไหลผ่านโขดหินตลอดจนเกาะแก่งที่จมอยู่ใต้น้ำมากมายในช่วงฤดูฝน ในบางช่วงของแก่งกระแสน้ำอาจจะลดระดับลาดเอียงเทลงอย่างน่าใจหาย นักล่องแก่งจะต้องใช้ทักษะในการพายเรือผ่านแก่งนี้ค่อนข้างสูง เมื่อผ่านแก่งยาวไปได้แล้วแก่งต่างๆ ที่ยังเหลืออยู่นั้นไม่ว่าจะเป็น "แก่งคงสัก" "แก่งวังน้ำเย็น" และอีกหลายๆ แก่งที่มีความยากอยู่ในระดับ 2-3 หรือ 3-4 เท่านั้น โดยแก่งทั้งหมดที่เหลือนั้นนักท่องเที่ยวยังสามารถลงไปลอยคอผ่อนคลายกล้าม เนื้อให้เย็นสบายใจได้ และมาถึงแก่งสุดท้ายก่อนจะขึ้นฝั่งคือ "แก่งทับขุนไทร" รวมทั้งสิ้น 18 แก่ง ซึ่งตลอดเส้นทางที่ล่องแก่งนั้นนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสนุกสนาน ตลอดสายน้ำที่มีความเป็นธรรมชาติตลอด 3 ชั่วโมง

  



          อย่างไรก็ ตาม นอกจากสนุกสนานการล่องแก่งลำน้ำเข็กแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้ชิมกาแฟแก่งซอง ซึ่งเป็นกาแฟท้องถิ่นพันธุ์อาราบิก้า ต้นตำรับแท้ๆ ที่มีความเข้มข้น หอมละมุน จึงมีชื่อเรียกติดปากว่า "กาแฟแก่งซอง" ซึ่งเป็นกาแฟที่ปลูกอยู่ทั่วไปบริเวณตำบลแก่งโสภา จนปัจจุบันกาแฟแก่งซองเป็นกาแฟขึ้นชื่อของจังหวัดพิษณุโลก และเป็นที่ยอมรับของคอกาแฟ และผู้จำหน่ายกาแฟทั่วไปอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารขึ้นชื่ออีกมากมายที่เปิดเลียบริมแม่น้ำเข็กรอรับ นักท่องเที่ยวให้แวะมาลองชิม โดยอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารประเภทปลาแม่น้ำที่ชาวบ้านหามาได้จากลำน้ำเข็ก ซึ่งเป็นปลาธรรมชาติที่มีอยู่อย่างชุกชุมเพื่อนำมาปรุงอาหารให้กับนักท่อง เที่ยวได้ลองลิ้มชิมรสปลาแม่น้ำสดๆ
  
          ทั้ง นี้ หากนักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัยทางน้ำท่านใด สนใจจะมาล่องแก่งลำน้ำเข็ก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.สำนักงานการท่องเที่ยวภาคเหนือ เขต 3 จ.พิษณุโลก โทรศัพท์ 0-5525-2742-3

ปลายฝนต้นหนาว...เที่ยวป่าแม่วงก์


อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์


ปลายฝนต้นหนาว...เที่ยวป่าแม่วงก์ (เดลินิวส์)

โดย : ทีมข่าวนครสวรรค์

          หากพูดถึงป่า อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ หลาย คนคงรับรู้ว่า ผืนป่าตะวันตกแห่งนี้ เป็นป่าใหญ่ที่เชื่อมต่อกับป่าอุ้มผาง จ.ตาก และ ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี โชคดีที่พื้นป่าทั้งสองแห่งได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกไปแล้ว ทว่าป่าแม่วงก์ยามนี้จะยังไม่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก แต่หมู่มวลสรรพสัตว์ที่อาศัยในผืนป่าใหญ่อันสมบูรณ์แห่งนี้ ก็ยังคงอดทนรอคอยอย่างมีความหวังต่อไป เพราะว่าป่าใหญ่ ไม้งามผืนสุดท้ายแห่งเมืองปากน้ำโพผืนนี้ มันได้ผ่านการพิสูจน์ความอดทนมาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน
  
          อดีตป่าแม่วงก์ได้ผ่านยุคของการถากถาง เมื่อขบวนการทำไม้รุ่งเรือง ป่าใหญ่แห่งนี้ก็กลายเป็นแหล่งชักลากทำไม้สำคัญ สร้างความมั่งคั่งแก่คหบดีมากมาย จวบจนเข้าสู่ยุคของการขัดแย้งทางความคิด ผืนป่าแม่วงก์ก็กลายเป็นเขตเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ประเทศไทย และเมื่อความขัดแย้งสงบลง ทางการประกาศให้ป่าไม้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จึงอพยพชาวบ้านออกจากป่า มาจัดสรรที่ดินทำกินใหม่ ห้ามการบุกรุก นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการฟื้นตัวของผืนป่าแม่วงก์อีกครั้ง
  
          ปลายฝน ต้นหนาว ตลอดระยะเวลานาน 3 เดือนจากนี้ บรรยากาศ ณ แก่งเกาะใหญ่ ตำบลแม่เล่ย์ อ.แม่วงก์ จะเต็มไปด้วยความคึกคัก คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความท้าทาย เพราะเป็น 3 เดือนแห่งความสุข จุดเริ่มต้นของฤดูการล่องแก่งแม่เรวา กิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทุกสารทิศสามารถสัมผัสความท้าทาย ของสายน้ำ ขุนเขา และการผจญภัยอย่างเต็มอิ่มที่นี่

  
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์


          จุดเริ่มต้นของการลงเรือจะอยู่ที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ มว. 4 (แม่เรวา) ตั้งอยู่ช่วงตอนกลางของ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ถือ ว่าเป็นป่าที่สุดยอดของความสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวสามารถมากางเต็นท์ค้างคืน นอนฟังเสียงน้ำในห้วยแม่วงก์ไหลซ่านซอกหิน ประหนึ่งเสียงของโอเปร่าที่ขับกล่อมอยู่เนือง ๆ ยิ่งบรรยากาศยามเช้าช่วงปลายฝน ต้นหนาว จะสวยงามเหนือคำบรรยายจริง ๆ หากใครโชคดีมีสายฝนโปรยปราย ลงมาปะทะโขดหิน สายน้ำแตกกระจายกลายเป็นละอองฝอยระยิบ สะท้อนแสงพระอาทิตย์ที่สอดส่องทอผ่านใบไม้ลงมาสัมผัส ประกายแสงระยิบระยับสวยงามจับใจ
  
          หากนักท่องเที่ยวจะทอดสายตาออกไปทางทิศเหนือ จนสุดการมองเหนือลำห้วยห้วยแม่เรวา จะมองเห็นยอดเนินเขาลูกทมึนเบื้องหน้า ที่เปรียบเสมือนกำแพงที่ธรรมชาติรังสรรค์ กางกั้นระหว่างหมู่บ้านกับผืนป่าแม่วงก์ตอนใน สายน้ำจากลำห้วยแม่วงก์ที่ไหลผ่านป่าสักผืนงามกลางป่าลึก ได้ไหลผ่านเกาะแก่งโขดหินช่วงที่เรียกว่า "ลานนกยูง" ผ่านคดเคี้ยวตรงไปยังทิศใต้ มีแก่งหินที่เรียกว่า "แก่งเกาะใหญ่" เป็นจุดหมายปลายทาง

  
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์


          นายสุรพจน์ นวมถนอม นายอำเภอแม่วงก์ เปิดเผยว่า หากนักท่องเที่ยวที่ต้องการความท้าทายกิจกรรมล่องแก่ง ช่วงปลายฝน ต้นหนาวขอเชิญได้ที่อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมล่องเรือยาง และ การพายเรือคยัคระดับความยากปานกลาง ล่องแก่งไปตามห้วยแม่วงก์ระยะทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมง เหมาะสำหรับมือใหม่หัดพายไม่เป็นอันตรายสายน้ำที่ใสไหลเย็นทำให้การล่องแก่งที่นี่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมสองฝั่งของลำห้วยนักท่องเที่ยวยังสามารถศึกษาธรรมชาติ ชมวิวทิวทัศน์และความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
  
          "ลองหลับตานึกดูว่าสายน้ำ ที่ไหลเรื่อย ๆ จากผืนป่าใหญ่ ผ่านเกาะแก่ง กระทบลานนกยูง จุดเริ่มต้นของการล่องเรือยาง นักท่องเที่ยวที่จ้วงพายตัดกับสายน้ำสีขาวใส ลดเลี้ยวผ่านป่าสักสีเขียวสดสองฟากฝั่ง ช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาวนี้จะสวยงามขนาดไหน เพราะว่าต้นสักทุกต้นในป่าแห่งนี้กำลังอวดดอกขาวนวลสะพรั่ง เมื่อขบวนเรือผ่านแก่งน้ำเชี่ยวลอยล่องไปตามความแรงของสายน้ำ นักท่องเที่ยวจะตื่นเต้นท้าทายขนาดไหนรับรองจะประทับใจมิรู้ลืม" นายอำเภอแม่วงก์กล่าว
  

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์


          ด้าน นายสมศักดิ์ แจ่มฟ้า นายก อบต.แม่เล่ย์ กล่าวต่อด้วยว่า ในส่วนที่พักนักท่องเที่ยวสามารถจะเลือกนอนเต็นท์ นอนบ้านพัก หรือ นอนโฮมสเตย์ก็ได้ อุทยานฯ มีบ้านพักไว้บริการ ในราคามาตรฐานสากล หากใครต้องการสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ก็สามารถนำเต็นท์มากางเองก็ได้ แต่ หากต้องการสัมผัสวิถีชาวบ้านอย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวก็เลือกนอนโฮม สเตย์ที่ชาวบ้าน กลุ่มโฮมสเตย์แม่เรวาจัดบริการไว้ในราคาแสนประหยัดเพียงคืนละ 150 บาทเท่านั้น
  
          "นอกจากการล่องแก่งที่แสนสนุกแล้ว หน่วยแม่เรวายังมีกิจกรรมปั่นจักรยานเสือภูเขาไปตามเส้นทาง ระหว่างแก่งลานนกยูงไปจนถึงหน่วยจัดการต้นน้ำขุนน้ำเย็น ระยะทาง 5 กิโลเมตร ผ่านป่าเต็งรังสมบูรณ์สามารถชมนกประจำถิ่นในป่าเต็งรังได้ด้วย สามารถติดต่อได้ที่หน่วยฯ แม่เรวาได้ทุกวัน" นายก อบต.แม่เล่ย์ กล่าว

  
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์


          สำหรับการเดินทางมา เที่ยวที่นี่ที่แสนสะดวก สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายเอเซีย ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 มุ่งสู่นครสวรรค์ เมื่อถึงตัวจังหวัดนครสวรรค์ยังคงใช้เส้นทางสายเอเซียหมายเลข 1 เหมือนเดิม ขับขึ้นไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตรเศษ ถึงแยก หนองเบน จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางสาย 1072 ผ่านอำเภอลาดยาว ถึงสี่แยกเขาชนกันให้ตรงไปจนสุดเส้นทางรวมระยะทางประมาณ 310 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง หรือ สามารถสอบถามเส้นทางได้ที่ ที่ว่าการอำเภอแม่วงก์ ที่ทำการ อบต.แม่เล่ย์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ 0-5629-5102 หรือ 08-7976-4674 รับรองนักท่องเที่ยวจะประทับใจมิรู้ลืม